ปฐมาจารย์เกษตรเพชร……. ท่านเป็นผู้ก่อตั้ง สร้างทำ นำพา ทั้งวิชชาและองค์กรสุวรรณโคมคำทั้งหมด (ชมรมฯ , มูลนิธิ , ธรรมสถาน) มากับมือ ด้วยบารมีธรรมอันสั่งสมมานับภพชาติไม่ถ้วนและมหาปณิธานอันมุ่งมั่นเพื่อมหาชนและสรรพชีวิต
แม้ภายหลังจะถูกศิษย์พาลใส่ความแย่งชิงองค์กรไปบางส่วนท่านก็ยังคงบำเพ็ญบารมีและเผยแผ่วิชชาอย่างมุ่งมั่นตามปกติ รู้ชื่นตื่นเบิกบานในธรรมสม่ำเสมอ พรั่งพร้อมด้วยปัญญาและเมตตามิเว้นวาย ท่านยังคงประสิทธิ์ (ท่านเป็นผู้นำและผู้สืบทอดวิชชาสุวรรณโคมคำหนึ่งเดียวในยุคปัจจุบัน โดยมีไม้เท้าที่หลวงปู่ศุข บูรพาจารย์องค์สำคัญองค์หนึ่งแห่งสุวรรณโคมคำ ท่านได้ส่งมอบไว้รอให้เป็นสัญลักษณ์แก่ผู้นำและผู้สืบทอดวิชชาสุวรรณโคมคำในยุคสมัยนี้ อันจะมาบังเกิดในสายวิชชาและสายตระกูลของท่านในยุคปัจจุบัน คือ ปฐมาจารย์เกษตรเพชร นั่นเอง ปฐมาจารย์เกษตรเพชรจึงเป็นผู้มีคุณสมบัติ และมีสิทธิอำนาจในการประสิทธิ์ให้กุลบุตร กุลธิดา ผู้สมัครกายสมัครใจ น้อมตัวเข้ามอบตนเป็นศิษย์ด้วยความเต็มกายเต็มใจ เกิดเป็นชาวสุวรรณโคมคำขึ้นมา) บอกสอนวิชชาสุวรรณโคมคำเป็นประจำที่ชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำ เหมือนกิจวัตรที่เคยทำมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำถูกท่านก่อตั้งขึ้นมาเป็นอันดับแรกก่อน (ในปี พ.ศ.2547) ….ภายหลังท่านจึงก่อตั้งมูลนิธิและธรรมสถานขึ้นตามมา (ในปี พ.ศ.2548) แต่ก็โดยการบริหาร อุ้มชู สนับสนุน พัฒนา สร้างทำโดยตัวท่านและชมรมฯ มูลนิธิและธรรมสถานจึงสำเร็จขึ้นมาได้ ฉะนั้น ปฐมาจารย์ฯ และชมรมฯ จึงเป็นเสาหลักในการบริหารเผยแผ่พัฒนา สร้างทำองค์กรและวิชชามาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้
ปัจจุบันปฐมาจารย์เกษตรเพชร ท่านก็ยังคงเป็นผู้สร้าง ผู้ส่งเสริม + ผู้คัดเลือกครูบาอาจารย์ ผู้มีศักยภาพและคุณถึง ( มีคุณสมบัติ มีคุณภาพ มีคุณธรรม ฯลฯ ) และดูแลการเรียนการสอนตามปกติ………… แถมในปัจจุบันท่านยังถ่ายทอดบอกสอนวิชชาขั้นสูงๆยิ่งขึ้นไปกว่าแต่ก่อนมากอีกด้วย เพราะครูบาอาจารย์รุ่นปัจจุบันมีความอดทนแข็งแกร่ง………..มีสติปัญญาบารมี สัตย์ซื่อถือคุณธรรม มีคุณสมบัติ และศักยภาพสูงกว่าแต่ก่อนมาก สามารถรองรับวิชชาได้โดยกิเลสไม่กำเริบ
พวกเราชาวชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำรู้สึกภูมิใจมาก และรู้สึกว่าพวกเราโชคดีมากที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนา และมีใจน้อมนำมาศึกษาปฏิบัติในพุทธธรรม นำพามาพานพบเป็นศิษย์ปฐมาจารย์ฯแห่งสุวรรณโคมคำผู้ล้ำปัญญา ทรงคุณธรรม นำพาสั่งสมบำเพ็ญบารมี พวกเราชาวชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำ พร้อมที่จะสร้างทำบำเพ็ญคุณงามความดี สร้างสมบารมีธรรมให้ยิ่งๆขึ้นไปและประกอบในกตัญญูกตเวทิตากุศลสัมมาทิฏฐิเสมอ ดังที่พวกเราได้ร่วมเสียสละ สร้างทำทั้งวิชชาและองค์กรสุวรรณโคมคำทั้งหมดมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ และตลอดไปด้วยบารมีธรรมและปีติสุขอันอุดม
ระหว่างนี้ปฐมาจารย์ฯ ท่านก็เผยแผ่สุวรรณโคมคำอยู่เป็นปกติสุข ( ในธรรม ) มิได้เนิ่นช้าอะไรแต่ประการใด เพราะช่วงที่ผ่านมาท่านได้ค้นพบ สุวรรณโคมคำ 16 ศาสตร์ ( โสฬส ) แล้วอีกทั้งในขณะนี้ท่านยังค้นพบวิชชามหาจักรพรรดิ์ (สุวรรณโคมคำ 18 ศาสตร์) แล้วอีกด้วย และยังได้ค้นพบรอยพระบาทของสมเด็จฯ (บูรพาจารย์) ที่ประทับไว้บนก้อนหิน ……..เพื่อเป็นอนุสสติและเป็นประวัติศาสตร์แก่ชาวสุวรรณโคมคำและชาวพุทธอีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้นท่านยังค้นพบศาสนสถานโบราณที่มีอายุนับพันพันปี ที่สมเด็จฯ ท่านเคยใช้ทำสังฆกรรม ฯลฯ สายสุวรรณโคมคำเราอีกด้วย
…… นับว่าอุปสรรควุ่นวายที่ผ่านมากลับให้คุณยิ่งแก่ปฐมาจารย์ฯ และชาวสุวรรณโคมคำสายขาวชนิดเขย่ง
ก้าวกระโดดไปอีกหลายขั้นยิ่งนัก อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว….นับเป็นอานิสงส์อันยิ่งใหญ่แห่งจิตที่ตั้งมั่น
ในคุณธรรม และความเสียสละอันยิ่งยวด…รวมถึงการบำเพ็ญบารมีอย่างอุกฤษฎ์ของปฐมาจารย์ฯ ที่สั่งสมมา
นับภพนับชาติไม่ถ้วนที่แสดงออกมาเป็นเครื่องพิสูจน์บุญบารมีให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนเพื่อชาวสุวรรณ
โคมคำ และสรรพชีวิตทั้งปวงอย่างน่าอัศจรรย์
===========================================
ซึ่งปัจจุบันท่านได้ถ่ายทอดบอกสอนวิชชาให้แก่หมู่ชนผู้ที่ (ครูบาอาจารย์เรียกว่า…) “ คุณถึง ” ( เช่น มีความซื่อสัตย์จริงใจ มีคุณธรรม มีความเสียสละ ฯลฯ = สัจจะ ศีล ธรรมะ )
และท่านได้เรียบเรียงจัดทำเป็นโครงสร้างหลักสูตรฉบับปรับปรุงและเริ่มเปิดสอนวิชชาให้ครบถ้วนบริบูรณ์ตลอดสาย ชนิดตั้งแต่เริ่มต้นปูพื้นฐานกันไปเลยสืบเนื่องต่อไปจนถึงยอดอย่างบริบูรณ์ หลักสูตรฉบับปรับปรุงนี้เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2558
ณ ชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำเช่นเดิม ซึ่งขณะนี้นับต่อเนื่องมาเป็นรุ่นที่ 41 แล้ว และนับเป็นข่าวดีอันเป็นอุดมมงคลยิ่งที่ตั้งแต่ปี 2561 เนื้อหาวิชชาสุวรรณโคมคำที่ปฐมาจารย์ฯ นำพาชมรมฯเปิดสอนในหลักสูตรฉบับปรับปรุง ได้สอนเนื้อหาวิชชาต่อเนื่องต่อยอดขึ้นมาถึงขั้นโสฬสวิชชา อันเป็นวิชชาขั้นสูงยิ่งแห่งสุวรรณโคมคำ สมประสงค์ตามปณิธานในการค้นคว้าฟื้นฟูและเผยแพร่สุวรรณโคมคำของปฐมาจารย์ฯ …………..
นับตั้งแต่ปฐมาจารย์เกษตรเพชรเริ่มฟื้นฟูเผยแพร่สุวรรณโคมคำมาตั้งแต่ต้น พ.ศ.2546 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน (พ.ศ.2562) นี้ ก็นับเป็นปีที่ 17 แล้ว เมื่อถึงปีที่กำลังเปิดการเรียนการสอนอยู่นี้ ซึ่งเป็นการเปิดสอนสุวรรณโคมคำที่เป็นระบบที่ต่อเนื่องยาวนานที่สุด และมีจำนวนรุ่นมากที่สุดในประเทศไทยตามความเป็นจริง นับตั้งแต่เริ่มเปิดสอนมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน
============================================
รายละเอียดความยาวนานของการเปิดสอนวิชชาสัตตาภิธรรม, กรรมจักร, กสิณสมาธิ ฯลฯ คัมภีร์สุวรรณโคมคำ โดยปฐมาจารย์เกษตรเพชร (ผู้นำและผู้สืบทอดสุวรรณโคมคำหนึ่งเดียว) มีดังนี้
ปี ๒๕๔๖ ……………………….. เปิดสอนรุ่น ๐ (รุ่นศูนย์_รุ่นบุกเบิก / ก่อนก่อตั้งชมรมฯ)
ปี ๒๕๔๗ ……………………….. เปิด ๑ รุ่น (คือรุ่น๑) ………………. ปฐมาจารย์ฯก่อตั้งชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำ
ปี ๒๕๔๘-๒๕๕๓ ……………… เปิดสอน ๒ รุ่นต่อปี (ปี ๒๕๔๘ ……… ปฐมาจารย์ฯก่อตั้งมูลนิธิสุวรรณโคมคำ) ……..(คือรุ่น ๒-๓/๔-๕/๖-๗/๘-๙/๑๐-๑๑/๑๒-๑๓)
ปี ๒๕๕๔ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๑๔-๑๕-๑๖)
ปี ๒๕๕๕ ……………………….. เปิด ๔ รุ่น (รุ่น ๑๗-๑๘-๑๙-๒๐)
ปี ๒๕๕๖ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๒๑-๒๒-๒๓)
ปี ๒๕๕๗ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๒๔-๒๕-๒๖)
ปี ๒๕๕๘ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๒๗-๒๘-๒๙)
ปี ๒๕๕๙ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๓๐-๓๑-๓๒)
ปี ๒๕๖๐ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๓๓-๓๔-๓๕)
ต้นปี ๒๕๖๑ ……………………….. เปิดถึงรุ่นที่ ๓๖ แล้ว
หมายเหตุ : ปฐมาจารย์ฯ ท่านนับของท่านอย่างนี้ต่อเนื่องมาโดยตลอด ตามความเป็นจริงอย่างไม่ขาดสาย เพียงแต่ว่าท่านนับรุ่นบุกเบิก (รุ่นแรกที่ท่านเปิดสอน) ว่าเป็นรุ่นศูนย์ แล้วจึงนับรุ่นถัดมาว่าเป็นรุ่น ๑ (ในมุมมองของท่าน) เมื่อลูกศิษย์ทราบความมาถึงตรงนี้ทีไร ก็จะงงๆ เล็กน้อยกันถ้วนหน้า เพราะคนทั่วไปเขานับรุ่นแรก/รุ่นบุกเบิก ว่าเป็นรุ่น ๑ แล้วนับไล่ลำดับต่อมาตามนั้น ฉะนั้น ทางชมรมฯ จึงกราบเรียนขออนุญาติปฐมาจารย์ฯท่านว่า ชมรมฯ ขอนับแบบปกติทั่วไป คือนับรุ่นแรก/รุ่นบุกเบิก ที่ปฐมาจารย์ฯ เริ่มเปิดสอน ว่าเป็นรุ่น ๑ แล้วนับไล่ลำดับต่อมาตามนั้นตามหลักทั่วไป ได้ไหม เพื่อคนทั่วไปจะได้ไม่งง ปฐมาจารย์ฯ ท่านก็อนุญาติตามนั้น
ดังนั้น ชมรมฯ จึงขอนับจำนวนรุ่นที่ปฐมาจารย์ฯ ฟื้นฟูเผยแพร่ถ่ายทอดวิชชาสุวรรณโคมคำ มาตั้งแต่ต้นคือตั้งแต่ปีพ.ศ.2546 อย่างต่อเนื่องมาไม่ขาดสาย กระทั่งถึงปัจจุบัน (อันเป็นการฟื้นฟูเผยแพร่เปิดสอนสุวรรณโคมคำ ที่เป็นระบบและต่อเนื่อง มีรูปธรรม มีจำนวนรุ่นมากที่สุด และต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทย ตามความเป็นจริง) ดังนี้
ปี ๒๕๔๖ ……………………….. เปิดสอนรุ่น ๑ (รุ่นศูนย์_รุ่นบุกเบิก / ก่อนก่อตั้งชมรมฯ)
ปี ๒๕๔๗ ……………………….. เปิด ๑ รุ่น (คือรุ่น๒) ………………. ปฐมาจารย์ฯก่อตั้งชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำ
ปี ๒๕๔๘-๒๕๕๓ ……………… เปิดสอน ๒ รุ่นต่อปี (ปี ๒๕๔๘ ……… ปฐมาจารย์ฯก่อตั้งมูลนิธิสุวรรณโคมคำ) ……..(คือรุ่น ๓-๔/๕-๖/๗-๘/๙-๑๐/๑๑-๑๒/๑๓-๑๔)
ปี ๒๕๕๔ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๑๕-๑๖-๑๗)
ปี ๒๕๕๕ ……………………….. เปิด ๔ รุ่น (รุ่น ๑๘-๑๙-๒๐-๒๑)
ปี ๒๕๕๖ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๒๒-๒๓-๒๔)
ปี ๒๕๕๗ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๒๕-๒๖-๒๗)
ปี ๒๕๕๘ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๒๘-๒๙-๓๐)
ปี ๒๕๕๙ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๓๑-๓๒-๓๓)
ปี ๒๕๖๐ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๓๔-๓๕-๓๖)
ปี ๒๕๖๑ ……………………….. เปิด ๔ รุ่น (รุ่น ๓๗-๓๘-๓๙-๔๐)
ปี ๒๕๖๒ ……………………….. เปิด ๔ รุ่น (รุ่น ๔๑-๔๒-๔๓-๔๔)
ปี ๒๕๖๓ ……………………….. เปิด ๓ รุ่น (รุ่น ๔๕-๔๖-๔๗)
ปี ๒๕๖๔ ……………………….. กำลังเปิดรุ่น ๔๙
โดยเปิดรุ่นปัจจุบันที่กำลังประชาสัมพันธ์กันอยู่นี้ เป็นภาคการศึกษาที่ ๒ ของปี ๒๕๖๔ คือ รุ่นที่ ๔๙ (รุ่นมหาศรีศรัทธา) ซึ่งก็คือรุ่นที่กำลังประกาศรับสมัคร ไหว้พระบรมครูฯ ลงทะเบียนเรียนอยู่ในขณะนี้
อ่านบทความถัดไป : ปฐมาจารย์ฯ......ผู้สืบทอด